ส่อเค้าคอบอลไทยอดดูถ่ายสดบอลโลก 2022 หลังเอเย่นต์ฟีฟ่าแจ้งผลเจรจาลดค่าลิขสิทธิ์ได้แค่เล็กน้อย แต่ยอดเงินยังสูงอยู่เกินงบที่ กกท.มีอยู่แค่ 1,000-1,100 ล้านบาท ตอบกลับไปแล้ว ถ้าไม่ลดก็ไม่สามารถซื้อได้ ต้องรอดูท่าทีฟีฟ่าต่อไป ยอมลดราคาหรือออกเงื่อนไขพิเศษให้สิทธิซื้อถ่ายสดรอบต่อไปได้หรือไม่ ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต กกท.ดำเนินการล่าช้าจนต้องซื้อลิขสิทธิ์แพง เพราะตามระเบียบต้องรอให้ไม่มีเอกชนรายใดแสดงความจำนงซื้อลิขสิทธิ์แล้วถึงจะดำเนินการได้ อ้อนคอบอลถ้าไม่ได้ดูถ่ายสด ขอให้เข้าใจ ทำสุดความสามารถแล้ว
ความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-18 ธ.ค.65 หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม ที่ กกท.เสนอขอรับการสนับสนุนไป 1,600 ล้านบาท ทำให้ กกท.ต้องหาภาคเอกชน เข้ามาสนับสนุนอีก 1,000 ล้านบาท
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่สำนักงาน กสทช. ได้จัดให้มีพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่าง กสทช. โดยนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. และ กกท. โดยนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปี 2022 ซึ่งมติคณะกรรมการ กสทช. เมื่อวันที่ 9 พ.ย.65 อนุมัติกรอบวงเงินช่วยเหลือ 600 ล้านบาท ให้ใช้เงินกองทุน กทปส.
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขา ธิการ กสทช. กล่าวว่า การอนุมัติจ่ายเงินสนับสนุน จะกระทำได้ต่อเมื่อ กกท.สามารถจบการเจรจาและเซ็นสัญญากับฟีฟ่าก่อน เงินช่วยเหลือจาก กสทช. เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่เหลือ กกท.ต้องหาเพิ่มเอง ส่วนการถ่ายทอดสดเป็นการดำเนินการผ่านกองทัพบก และโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ภายใต้หลักการไม่เลือกปฏิบัติและให้สิทธิ์ถ่ายทอดสด โดยเท่าเทียมกัน
ขณะที่นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า กกท.กำลังรอคำตอบจากฟีฟ่าว่า จะตอบรับ ราคาซื้อลิขสิทธิ์ที่เสนอไปหรือไม่ คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบก่อนวันหยุดยาวช่วงเอเปก มิเช่นนั้นอาจไม่ทันถ่ายทอดสดวันที่ 20 พ.ย.65 วันเริ่มต้นการแข่งขัน ระหว่างนี้ กกท.ได้ส่งข้อสัญญาต่างๆ ให้อัยการสูงสุดตรวจสอบควบคู่ไปด้วย
เมื่อถามว่า ราคาล่าสุดที่เสนอไปคือ 28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,036 ล้านบาท) ตามที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ ดร.ก้องศักดกล่าวว่า ไม่เคยเปิดเผยราคา บอกได้แต่ว่าราคาที่เสนอซื้อไปต่ำกว่า 28 ล้านเหรียญสหรัฐฯแน่นอน เพราะต้องเปรียบเทียบกับราคาที่ประเทศเพื่อนบ้านซื้อด้วย หวังว่าฟีฟ่าจะยอมพิจารณาแบ่งขายเป็นแพ็กเกจย่อยให้ เมื่อถามว่าต้องหาเงินเพิ่มอีกจำนวนเท่าใด นายก้องศักดตอบว่า ไม่สามารถบอกได้ กกท.กำลังพยายามหาเงินสนับสนุนอื่นๆเพิ่มเติม ทั้งจากเอกชนรายใหญ่ ที่สนใจเป็นสปอนเซอร์
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ที่มอบนโยบายมา มีความเข้าใจเป็นอย่างดี หากฟีฟ่าไม่ตกลงในราคาที่ทางไทยเสนอไป คงต้องขอให้ประชาชนไทยเข้าใจ เนื่องจากเป็นการใช้เงินภาครัฐซื้อ และเหตุที่ กกท.เพิ่งเข้ามารับเป็นเจ้าภาพเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ เพราะต้องรอให้แน่ชัดก่อนว่าไม่มีเอกชนรายใดสนใจซื้อ กกท.ค่อยออกหน้าเจรจา ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เข้าใจได้ว่าเอกชนคงต้องคิดหนัก หากจะใช้เงินจำนวนมากซื้อลิขสิทธิ์ที่อาจไม่คุ้มต่อการลงทุน และไม่อยากให้ใครครหาว่าประเทศไทยต้องใช้งบประมาณภาษีมาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่แพงเกินจริง เวลานี้ เงื่อนไขต่างๆได้ส่งให้ฟีฟ่าพิจารณาจบครบถ้วนแล้ว เหลือรอตอบรับ ส่วนเรื่องการขอลดแพ็กเกจ จากเต็มแมตช์ 64 นัด เป็นแพ็กเกจย่อยไม่เต็ม ก็ยังรอคำตอบจากอินฟรอนท์ บริษัทตัวแทนของฟีฟ่าเช่นกัน จะเป็นตัวแปรในการตัดสินใจของเราด้วย
นายก้องศักด กล่าวว่า ส่วนข้อตกลงของสัญญา หากต้องจ่ายให้ฟีฟ่า ในมูลค่า 1,600 ล้านบาท จริงๆมองว่ามากเกินไปสำหรับเราและพี่น้องประชาชนชาวไทยด้วย จะเป็นราคาที่คงจะไม่จ่ายให้กับฟีฟ่า ยิ่งเมื่อเทียบกับค่าลิขสิทธิ์ที่ประเทศเพื่อนบ้านได้ไปด้วย ราคา 1,600 ล้านบาท ถือเป็นราคาที่สูงเกินไปจริงๆ ส่วนการดำเนินการหากยังไม่สามารถปิดดีลได้ก่อนฟุตบอลโลกนัดเปิดสนามจะเริ่ม ต้องยอมรับว่า คงเป็นเรื่องยากพอสมควร เว้นแต่ฟีฟ่าจะเข้าใจ
ยอมลดราคา และออกเงื่อนไขพิเศษให้ซื้อสิทธิ์เพื่อถ่ายทอดในรอบต่อไปได้ อาจเป็นไปได้เช่นกัน แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีสถานการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง ดังนั้น ทุกฝ่าย ทุกคนที่ได้รับมอบหมายจะพยายามทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่กันต่อไป
“หากสุดท้ายแล้ว การผ่อนผันของฟีฟ่าไม่เกิดขึ้น เราเองไม่ได้ดูฟุตบอลโลก 2022 จริงๆก็คงต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ยังเชื่อว่าทั้งฟีฟ่าและประเทศไทย มีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการที่อยากให้ประชาชนคนไทยได้ดูมหกรรมฟุตบอลโลกหนนี้ และยังเชื่อว่าฟีฟ่ายังน่าจะมีทางออกและข้อเสนอให้กับทางเราได้พิจารณาอีกครั้งเช่นกัน” นายก้องศักดกล่าว
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีจะนำเงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติมาใช้ในการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ด้วย เป็นการหยิบยกขึ้นมาเพื่อตรวจสอบในข้อกฎหมายเท่านั้นเอง ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งในข้อกฎหมายนั้นถือว่ามีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องเรียนตามตรงว่าการใช้เงินกองทุนฯ ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะก่อนจะใช้จ่ายในแต่ละปี เราจะมีแผนการอนุมัติ ซึ่งในแผนมีความชัดเจนอยู่แล้ว แต่จริงๆแล้วเงินส่วนใหญ่จะถูกจัดสรรไปให้สมาคมกีฬาต่างๆ และสนับสนุนในกิจกรรมกีฬาต่างๆเป็นหลัก ดังนั้นหากจะนำไปใช้สนับสนุนในกรณีฉุกเฉิน จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย
ช่วงเย็นวันเดียวกัน มีรายงานว่า การเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างอินฟรอนท์ เอเย่นต์ของฟีฟ่า กับ กกท. ล่าสุด สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เมื่ออินฟรอนท์แจ้งว่ายอมลดราคาจาก 42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,600 ล้านบาทให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ยอดเงินค่าลิขสิทธิ์ยังสูงอยู่มาก เกินที่จะรับได้ กกท. ตัดสินใจตอบกลับไปว่า ถ้าไม่ลดให้มากกว่านี้ มาอยู่ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่มีอยู่ตอนนี้ ทั้งจาก กสทช. 600 ล้านบาท และภาคเอกชนที่คาดว่าจะให้ 400-500 ล้านบาท รวมกันแล้วประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาท ไม่สามารถซื้อได้ ต้องรอดูท่าทีของฟีฟ่าต่อไปว่าจะมีความเห็นอย่างไร
ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า กกท. เข้ามาดำเนินการล่าช้า ทำให้การซื้อลิขสิทธิ์แพงนั้น เนื่องจาก กกท.ไม่สามารถดำเนินการแข่งขันกับเอกชนได้ ต้องรอให้ไม่มีเอกชนรายใดแสดงความจำนงในการซื้อลิขสิทธิ์แล้วจึงจะดำเนินการได้