ตำนาน “เปเล่” กับคนไทย 52 ปี จุดประกาย “บอลโลก” อัปเดตข่าวสารที่ทันสมัย รู้ลึกถึง ตำนานอย่าง เปเล่ ที่หลายคนสงสัยคนไทยคือใครนั้น
ตำนาน “เปเล่” กับคนไทย 52 ปี จุดประกาย “บอลโลก” ฉันตั้งใจจะเขียนถึง “เปเล่” นักฟุตบอลชาวบราซิล ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “The King of Football” ขวัญใจแฟนบอลทั่วโลกซึ่งถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ด้วยวัย 82 ปี 2 เดือนนับจากวินาทีที่เขาจากไป มาเขียนถึงช่วงนี้แม้จะช้าไปหน่อยแต่ก็ยังทันนะครับ งานศพของเขาเมื่อสองวันก่อนมีการเขียนมากมายเกี่ยวกับอัจฉริยะของเขาในฐานะนักฟุตบอล “ระดับโลก” ผมจะขออนุญาตเขียนในส่วนที่เขามีส่วนในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย พัฒนาการของรสนิยมการดูบอลของคนไทย กับ พัฒนาการของสื่อไทย เพราะเชื่อว่า คงไม่มีใครเขียนถึงเรื่องนี้มากนัก สำหรับผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป คงจะจำได้ว่าสื่อมวลชนหลักในประเทศไทยเมื่อ 60 ปีที่แล้วมีเพียง 2 สื่อ คือ หนังสือพิมพ์และวิทยุ ขณะที่โทรทัศน์แม้จะเริ่มออกอากาศไปแล้ว แต่ก็ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร การรับชมสามารถรับชมได้เฉพาะในเมืองใหญ่เมื่อพูดถึงหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นสื่อหลักอันดับ 1 และมีอิทธิพลต่อความคิดของคนไทยในยุคนั้นเป็นอันดับ 1 เป็นสื่อรวบรวมข่าวสารที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและทั่วโลกมาให้อ่านมากที่สุด เมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ ในแต่ละวัน ข่าวกีฬาถือเป็นข่าวหนึ่งที่คนไทยสมัยก่อนติดตามด้วยความชื่นชอบ แต่น่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับ “มวย” มากกว่า เพราะเมื่อ 60 ปีที่แล้วฟุตบอลยังจำกัดความนิยมอยู่ นอกจากฟุตบอลต่างประเทศแล้วในบ้านเราแทบไม่มีข่าวเลยแม้แต่ข่าวฟุตบอลโลกที่เริ่มดังไปทั่วโลกในยุคนั้น แต่สำหรับข่าวฟุตบอลโลกของประเทศไทยยังคงเป็นแค่ข่าว “หน้ากีฬา” หรือ “หน้าใน” หนังสือพิมพ์ และเป็นเพียงข่าวเล็กๆ เท่านั้น รวมถึงในปี 2501 หรือ พ.ศ.2501 เมื่อมีฟุตบอลโลกครั้งที่ 6 ที่ประเทศสวีเดนซึ่งถือเป็นปีที่สดใส การกำเนิดของ “เปเล่” หนังสือพิมพ์ในประเทศของเรานำเสนอแต่ข่าวและรูปภาพเล็กๆ น้อยๆ เป็นส่วนใหญ่ ทั้งๆที่ปีนั้นเปเล่อายุแค่ 17 ปี และในวันที่บราซิลเข้าชิงบอลโลกกับสวีเดนเจ้าภาพถือเป็นผู้เล่นฟุตบอลโลกที่อายุน้อยที่สุด แต่ก็สามารถทำ 2 ประตูในชัยชนะ 5-2 ให้กับบราซิล ที่ 2 มาครองได้อีกครั้งทันที 2 สมัยติด แต่ก็ยังเป็นข่าวเล็กของประเทศไทยอยู่ดี มาถึงปี พ.ศ. 2509 หรือ พ.ศ. 2509 อังกฤษอาสาเป็นเจ้าภาพและคนไทยก็เริ่มรู้จักฟุตบอลโลกมากขึ้น มีการกล่าวถึงผู้เล่นที่ร้อนแรงที่สุดของปีมากขึ้น โดยเฉพาะนักเตะอังกฤษ “แชมป์โลก” ในปีนั้น แต่ก็ยังเป็นที่รับรู้จากข่าวในอดีต จนกระทั่งปี 1970 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 9 ที่เม็กซิโก และเปเล่ที่เคยท้อแท้จากการถูกเตะ จนอยากเลิกเล่นฟุตบอลเขากลับมาติดทีมชาติบราซิลอีกครั้งพร้อมจอมทัพเลือดบราซิลคนใหม่ในฟุตบอลโลกปี 1970 หรือ พ.ศ.2513 ซึ่งถือเป็น “ตำนาน” ของทั้งฟุตบอลโลก และการรายงานข่าวฟุตบอลโลกในประเทศไทย อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า 2 ยักษ์ใหญ่ “ไทยรัฐ” และ “เดลินิวส์” แข่งขันกันนำข่าวฟุตบอลโลกขึ้นหน้า 1 ของพาดหัวข่าวยักษ์จนกลายเป็นหนึ่งในข่าวขายดี ข่าวคราวในประวัติศาสตร์ของหนังสือพิมพ์บ้านเรา ขณะเดียวกัน ทีมชาติบราซิล ที่ประกอบด้วย 3 เสือหมอบ “เปเล่”, “ทอสเตา” และ “แชร์ชินโญ่” ก็เล่นได้โดดเด่นมาก ทำให้แฟนบอลชาวไทยหันมาเชียร์ทีมชาติบราซิลเหมือนเชียร์ทีมชาติไทยกันเลยทีเดียว กลายเป็นแรงกดดันทางการเมือง ทำให้รัฐบาลในปีนั้น (จอมพลถนอม กิตติขจร) ตัดสินใจถ่ายทอดสดนัดชิงระหว่างบราซิลกับอิตาลี ทางช่อง 4 บางขุนพรหม เปเล่กับทีมชาติบราซิลคือฮีโร่ เอาชนะทีมชาติอิตาลีไป 4-1 โดย เปเล่ เป็นคนเปิดประตูแรกในนาทีที่ 18 พร้อมรับ “แข้งทองคำ” นักเตะยอดเยี่ยมไปครองอีกด้วย…สะใจคนไทยทั้งประเทศที่เชียร์เขาและชาวบราซิล ทีมชาติในช่วงดึกวันที่ 22 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย นี่คือตำนานและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของ Pele กับวงการฟุตบอลไทย แฟนบอลไทย และสื่อไทย สุขกายสุขใจ “เปเล่” ขอบคุณ “พลุ” บอลโลก ในใจคนไทย จากวันนั้นถึงวันนี้ 52 ปีพอดีเป๊ะ